การไฟฟ้านครหลวง หรือ กฟน. (Metropolitan Electricity Authority : MEA) ในฐานะเป็นผู้จัดจำหน่ายไฟฟ้าให้มีคุณภาพ เพียงพอ ปลอดภัย และตอบสนองต่อผู้ใช้ไฟฟ้าในกิจการทั้งภาครัฐและเอกชน ส่วนของอาคารขนาดใหญ่และโรงงานอุตสาหกรรม ในเขตพื้นที่ให้บริการ คือ กรุงเทพมหานคร นนทบุรีและสมุทรปราการ โดย 3 จังหวัดนี้เป็นเขตชุมชนเมืองที่มีอัตราการใช้พลังงานไฟฟ้ามากถึง 1 ใน 3 ของประเทศ จากนโยบายของการไฟฟ้านครหลวง ที่มุ่งมั่นพัฒนาเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรม ภายใต้แนวคิด “Leveraging for Tomorrow ต่อยอดสู่วิถีชีวิตอนาคต” โดยการเตรียมความพร้อมด้านระบบไฟฟ้า เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาทางเศรษฐกิจ และการเข้าสู่การแข่งขันของประเทศทั้งในระดับภูมิภาค และในระดับโลก จึงเป็นที่มาของโครงการที่ดีเพื่อคืนกำไรสู่สังคมรณรงค์ให้ทุกภาคส่วน ทุกองค์กร ได้เห็นความสำคัญของการประหยัดพลังงานกับ “โครงการส่งเสริมการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคาร” หรือ MEA Energy Saving Building ในเเคมเปญ “ค้นหาสุดยอดอาคารประหยัดพลังงานกับการไฟฟ้านครหลวง”


          โครงการฯ นี้เป็นการจัดประกวดอาคารที่มีลักษณะพิเศษ ที่ส่งเสริมให้เกิดการลดใช้พลังงานอย่างเป็นรูปธรรม สนับสนุนให้อาคารดำเนินมาตรการอนุรักษ์พลังงานมีการปรับปรุงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ร่วมกันสร้างจิตสำนึก ของพนักงานทุกระดับชั้น รณรงค์ให้เกิดการมีส่วนร่วม สื่อสารผ่านกิจกรรมประชาสัมพันธ์ทั้งภายในและภายนอกองค์กร เพื่อพัฒนาอาคารของตนให้เป็นต้นแบบอาคารประหยัดพลังงานระดับประเทศ และก้าวไปสู่รางวัลสำคัญด้านพลังงานระดับสากลต่อไป

          สำหรับการประกวด MEA Energy Saving Building แบ่งเป็น 2 ระดับ คือ ระดับที่ 1 ตราสัญลักษณ์ “กฟน.อาคารประหยัดพลังงาน”และ ระดับที่ 2 ตราสัญลักษณ์ “กฟน.อาคารประหยัดพลังงานดีเด่น” ซึ่งมีเกณฑ์ในการพิจารณาแตกต่างกัน เมื่ออาคารผ่านเกณฑ์แล้วจะได้รับป้ายตราสัญลักษณ์รับรองมาตรฐานการใช้พลังงาน ติดตั้งประจำ ณ อาคาร ปัจจุบันมีอาคารได้รับตราสัญลักษณ์ ฯ แล้วรวมทั้งสิ้น 147 แห่ง โดยใช้เกณฑ์มาตรฐาน MEA Index (Management of Energy Achievement Index) เป็นตัวชี้วัดระดับการใช้พลังงานที่ กฟน. ได้พัฒนาขึ้นใหม่ เนื่องจากการใช้พลังงานของอาคารขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้านไม่ว่าจะเป็นทิศทางที่ตั้ง การออกแบบอาคาร กรอบอาคาร ประสิทธิภาพอุปกรณ์ หรือพฤติกรรมการใช้พลังงานภายในอาคารนั้นๆ เป็นต้น ดังนั้น ค่า MEA Index ที่ได้รับจะช่วยสะท้อนให้เห็นถึงระดับประสิทธิภาพการใช้พลังงานของตนเองเทียบกับค่ามาตรฐานที่ควรจะเป็นในอาคารประเภทเดียวกัน เพื่อเป็นแนวทางสำหรับการลงทุนทางด้านพลังงาน หรือเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมในการปรับปรุงพัฒนาการใช้พลังงานอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

          จากการดำเนินโครงการ 3 ปี ได้รับความสนใจจากอาคารชั้นนำเข้าร่วม 247 แห่ง มีผลประหยัดพลังงานไฟฟ้าชัดเจนมากกว่า 18.8 ล้านหน่วยต่อปี คิดเป็นเงินค่าไฟฟ้าที่ช่วยชาติประหยัดได้ถึง 76.4 ล้านบาทต่อปี คิดเป็นปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ลดลงได้เท่ากับ 11,620 ตันต่อปี ถือเป็นความสำเร็จร่วมกันทั้งเจ้าของอาคาร และ กฟน. ที่ได้มีส่วนช่วยลดใช้พลังงานไฟฟ้าในระดับประเทศร่วมกัน

          โดยโครงการได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ดังนี้

 ปีที่ 1 (2555-2556) ประเภทโรงพยาบาลและไฮเปอร์มาร์เก็ต รางวัลอาคารดีเลิศ ได้แก่ โรงพยาบาลพญาไท 2 อินเตอร์เนชั่นแนล รางวัลดีเด่นพิเศษ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี, เทสโก้ โลตัส สุขาภิบาล 3 และแม็คโคร สาขาสาทร
 ปีที่ 2 (2556-2557) ประเภทโรงแรมและสำนักงาน รางวัลอาคารดีเลิศ ได้แก่ โรงแรมริชมอนด์ รางวัลดีเด่นพิเศษ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ และ อาคาร ดิ ออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์
 ปีที่ 3 (2557-2558) ประเภทมหาวิทยาลัยและศูนย์การค้า/ห้างสรรพสินค้า รางวัลอาคารดีเลิศ ได้แก่ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ รางวัลดีเด่นพิเศษ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา, ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์และศูนย์การค้าเดอะมอลล์บางแค
 ปีที่ 4 (2558-2559) ประเภทโรงเรียนและร้านสะดวกซื้อ มีอาคารผ่านเกณฑ์ MEA Index ได้รับตราสัญลักษณ์ “กฟน. อาคารประหยัดพลังงาน” ในระดับที่ 1 จำนวน 74 แห่ง แบ่งเป็นโรงเรียน 15 แห่ง และร้านสะดวกซื้อ 59 สาขาและอยู่ระหว่างการแข่งขันในระดับที่ 2